เครื่องกำจัดความชื้น เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ดูดความชื้นในอากาศ โดยดูดอากาศเข้าไปในตัวเครื่องผ่านแผงคอยล์เย็น แล้วกลั่นความชื้นในอากาศให้กลายเป็นหยดน้ำไปเก็บไว้ในถังหรือระบายออกทางท่อน้ำทิ้ง ก่อนปล่อยอากาศแห้งออกมาแทนที่ โดยเครื่องกำจัดความชื้นมี 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
1. เครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์ (Condenser Dehumidifier)
เครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์ ทำงานโดยใช้หลักการกลั่นน้ำในอากาศ โดยใช้แผงคอยล์เย็นเป็นตัวดึงความร้อนจากอากาศ ทำให้อากาศเย็นลงและควบแน่นเป็นหยดน้ำ หยดน้ำจะถูกเก็บไว้ในถังหรือระบายออกทางท่อน้ำทิ้ง โดยเครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์มีประสิทธิภาพในการดูดความชื้นสูง เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องใต้ดิน โรงรถ
ข้อดีของเครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์
- มีประสิทธิภาพในการดูดความชื้นสูง
- เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูง
- ทำงานเงียบ
ข้อเสียของเครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์
- มีขนาดและน้ำหนักค่อนข้างใหญ่
- สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าเครื่องกำจัดความชื้นแบบพาสซีฟ
2. เครื่องกำจัดความชื้นแบบพาสซีฟ (Passive Dehumidifier)
เครื่องกำจัดความชื้นแบบพาสซีฟ ทำงานโดยใช้หลักการดูดซับความชื้นในอากาศ โดยใช้วัสดุดูดความชื้น เช่น ซิลิกาเจล ถ่านกัมมันต์ สารเคมี เป็นต้น ความชื้นจะถูกดูดซับไว้โดยวัสดุดูดความชื้น อากาศที่ผ่านวัสดุดูดความชื้นจะมีความชื้นลดลง โดยเครื่องกำจัดความชื้นแบบพาสซีฟมีขนาดและน้ำหนักเบา เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นปานกลาง เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น
ข้อดีของเครื่องกำจัดความชื้นแบบพาสซีฟ
- มีขนาดและน้ำหนักเบา
- ประหยัดพลังงานมากกว่าเครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์
ข้อเสียของเครื่องกำจัดความชื้นแบบพาสซีฟ
- ประสิทธิภาพในการดูดความชื้นน้อยกว่าเครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์
- ทำงานได้ช้ากว่าเครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์
โดยสรุปแล้ว เครื่องกำจัดความชื้นมี 2 ประเภท ได้แก่ เครื่องกำจัดความชื้นแบบคอนเดนเซอร์ และเครื่องกำจัดความชื้นแบบพาสซีฟ โดยแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป จึงควรเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย และเลือกประเภทที่เหมาะกับการใช้งานที่สุดก่อนตัดสินใจซื้อ